'กลุ่มวาดะห์' ชี้ 5 ข้อเสนอบีอาร์เอ็น น่ารับได้ 4 ข้อ



นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ที่ปรึกษาดับไฟใต้ของ ...เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ชี้ 5 ข้อเสนอบีอาร์เอ็น น่ารับได้ 4 ข้อ เว้นข้อปล่อยแนวร่วม ต้องแยกแยะกลุ่มอุดมการณ์กับกลุ่มที่สังหารประชาชนผู้บริสุทธิ์...
          นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ สมาชิกกลุ่มวาดะห์ ในฐานะที่ปรึกษาดับไฟใต้ของ ...เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวกับ ไทยรัฐออนไลน์ ถึงกรณีที่ นายฮัสซัน ตอยิบ และนายอับดุลการิม คอลิบ แกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็น ได้โพสต์คลิปวิดีโอ เปิดเผย 5 ข้อเรียกร้องถึงรัฐบาลไทย ก่อนที่จะมีการพูดคุยรอบใหม่ในวันนี้ (29 เม.. 56) ว่า โดยส่วนตัวมองว่า ในข้อเรียกร้องทั้ง 5 ข้อ ไม่ใช่ข้อเรียกร้องที่ไกลเกินไปกว่าที่ได้คาดหมายเอาไว้ในตอนแรก และในข้อที่ 1. คือการให้ไทยยอมรับให้ประเทศมาเลเซียเป็นคนกลางในการไกล่เกลี่ย 2. การพูดคุยจะเป็นการพูดคุยระหว่างกลุ่มบีอาร์เอ็นและรัฐบาลไทย 3. การให้มีพยานจากอาเซียนและองค์การความร่วมมือแห่งศาสนาอิสลาม หรือ OIC และองค์กรเอกชนต่างๆ หรือ NGO และข้อ 5.รัฐบาลไทยต้องยอมรับบีอาร์เอ็น เป็นขบวนการปลดปล่อยชาวปาตานี ไม่ใช่กลุ่มแบ่งแยกดินแดนนั้น เป็นการเสนอเงื่อนไขที่จะทำให้เกิดการเจรจาต่อไป และน่าจะพอยอมรับได้
         
โดยในข้อที่ 1. ที่จะให้ยอมรับให้มาเลเซีย เป็นคนกลางในการเจรจานั้น เป็นเรื่องที่น่าจะเอามาพิจารณาได้ เพราะมาเลเซียจะเป็นตัวจักรสำคัญในการที่จะทำให้อะไรๆ มันสามารถลื่นไหลไปได้ เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า แกนนำของกลุ่มบีอาร์เอ็น ส่วนใหญ่ก็อยู่ในประเทศมาเลเซีย   
         
ส่วนในข้อที่ 2. ที่จะให้บีอาร์เอ็นเป็นตัวหลักในการเจรจากับทางฝ่ายไทยนั้น ก็ถือเป็นเรื่องปกติ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
          ข้อที่ 3. ที่ต้องการให้ OIC และ NGO เข้ามามีส่วนในการเจรจานั้น ก็น่าจะเป็นเรื่องที่รับได้ เพราะทั้งสององค์กรก็มีความมุ่งหวังจะให้เกิดสันติภาพใน 3 จังหวัดชายแดนใต้อยู่แล้ว และตนยังเชื่อว่า ทั้งสององค์กรจะเป็นพลังสำคัญ ที่จะทำให้การตกลงคุยกันในรายละเอียดมันง่ายขึ้น
         
และในข้อที่ 5. ที่บีอาร์เอ็นประกาศตัวว่า เป็นกลุ่มปลดปล่อย ไม่ใช่กลุ่มแบ่งแยกดินแดนนั้น เท่ากับเป็นการประกาศไปในตัวว่าจะลดอุดมการณ์เดิมที่ต้องการเอกราช จากการแบ่งแยกดินแดน มาเป็นกลุ่มปลดปล่อยชาวปัตตานี ซึ่งก็น่าจะพอหารือกันในกรอบของรัฐธรรมนูญได้
อย่างไรก็ดี ในส่วนของข้อที่ 4. ที่เรียกร้องให้มีการปลดปล่อยกลุ่มแนวร่วม โดยไม่มีเงื่อนไขนั้น ส่วนตัวคิดว่า อาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อย เพราะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน เนื่องจากมีผู้ได้รับผลกระทบจำนวนมาก โดยเฉพาะประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ต้องเสียชีวิตไป จึงต้องมีการแยกแยะให้ละเอียดว่า แนวร่วมคนใดควรที่จะได้รับการปล่อยตัว หรือไม่อย่างไร
         
โดยอาจจะมีการพิจารณาว่า บุคคลใดที่สังหารประชาชนผู้บริสุทธิ์นั้น ก็ควรจะมีการพิจารณากันไปตามกฎหมายจะละเว้นไม่ได้ แต่ในส่วนของบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับควาขัดแย้งเรื่องอุดมการณ์ทางด้านการเมืองนั้น ก็อาจจะมีการพิจารณาได้  ส่วนวิตกหรือไม่ว่า การดึงองค์กรต่างๆ เข้ามาร่วมการเจรจา จะทำให้เป็นการยกระดับให้บีอาร์เอ็น หรือเป็นการแทรกแซงกระบวนการภายในของไทยหรือไม่นั้น นายอารีเพ็ญ กล่าวว่า การเริ่มต้นการพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็น ก็เท่ากับเป็นการยอมรับการมีตัวตนของกลุ่มบีอาร์เอ็นไปกลายๆ แล้ว นอกจากนี้ การดึงมาเลเซีย หรือ OIC และ NGO เข้ามามีส่วนร่วมนั้น น่าจะมีประโยชน์มากกว่าโทษ เพราะ OIC และมาเลเซีย ได้ประกาศชัดเจนแล้วว่าไม่เห็นด้วยกับการแบ่งแยกดินแดน และการดำเนินการใดๆ ต้องไม่ขัดต่อหลักอธิปไตยของไทย  อย่างไรก็ดี นายอารีเพ็ญ กล่าวยอมรับจากการดูคลิปวิดีโอดังกล่าว ตนเองยังไม่แน่ใจว่า เป็นการพูดในคราวเดียวกันและสถานที่เดียวกันหรือไม่ เพราะเท่าที่ได้รับฟังนั้น นายฮัสซัน ตอยิบ จะพูดในกรอบกว้างๆ ขณะที่นายอับดุลการิม คอลิบ กลับพูดเรื่อง 5 ข้อเสนอในการเจรจา จึงทำให้เกิดความไม่แน่ใจว่า ข้อเสนอทั้ง 5 ข้อนั้น เป็นข้อเสนอของ นายฮัสซัน ตอยิบ ผู้แทนกลุ่มบีอาร์เอ็น ที่ได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้แทนฝ่ายไทยหรือไม่.


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น