ผบ.ทบ.ให้รัฐตัดสินใจ 5
ข้อเสนอบีอาร์เอ็น
วันที่ 29
เม.ย. ที่กรมการแพทย์ทหารบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. กล่าวถึงกรณีที่แกนนำบีอาร์เอ็น ยื่นข้อเสนอ 5
ข้อ ในการเจรจายุติ ว่า ไม่อยากให้มองกันมากนัก ถือเป็นเรื่องการขับเคลื่อนของแต่ละฝ่ายก็ทำกันไป ตนไม่อยากตอบคำถาม เพราะเป็นเรื่องของคณะทำงานเจรจาและอยู่ในกรอบที่กำหนดไว้ ตนในฐานะเป็น รอง ผอ.รมน. อยากให้สื่อเข้าใจว่า การทำงานมีหลายระดับ ทั้งระดับนโยบาย ฝ่ายปฏิบัติ ผู้ปฏิบัติ หากสื่อมาถามเป็นเรื่องๆ ต่างฝ่ายก็ต่างตอบ ก็จะทำให้การแก้ปัญหายากขึ้น จึงอยากขอร้องว่าการแก้ปัญหามีหลายอย่างต้องช่วยกัน ใครจะเสนออะไรก็ได้ ขึ้นอยู่ที่เราจะทำหรือไม่ รับฟังหรือไม่ ขอให้เข้าช่องทางที่ถูกต้อง ซึ่งคณะทำงานที่ไปพูดคุยบอกแล้วว่า ต้องอยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญ
ส่วนการตัดสินใจเป็นหน้าที่ของรัฐบาล ในฐานะที่อยู่ฝ่ายความมั่นคง มีหน้าที่รักษาพื้นที่ให้ปลอดภัย การพูดคุยยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาและท้ายที่สุดอาจจะดีก็ได้
เมื่อถามว่าข้อเสนอทั้ง 5
ข้อ ของบีอาร์เอ็น รับได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่า รับได้หรือไม่ ถ้าหากรับไม่ได้ก็ไม่ได้ ก็ถือว่าจบ ตนในฐานะ รอง ผอ.รมน.ไม่ใช่ ในฐานะ ผบ.ทบ. ซึ่งต้องมาพูดคุยกัน อย่าเอาตนไปเขียนอย่างนั้นต้องมาพูดคุยกันว่าจะเอาอย่างไรก่อนนำเข้าที่ประชุมในกรอบของรัฐบาลว่าจะเอากันอย่างไรเพราะการทำงานเป็นระบบคนที่ตัดสินใจคือ รัฐบาล โดยมีนายกฯ เป็นหัวหน้า ซึ่งมี ศอ.บต.,
กอ.รมน. และกระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ โดยรัฐบาลเป็นผู้รับผิดชอบและตัดสินใจไม่ใช่ตน แม้ว่าตนจะสามารถตัดสินใจได้โดยบอกว่าไม่เห็นด้วย แต่ถ้าส่วนใหญ่เห็นด้วย ตนก็เป็นแค่เสียงหนึ่งเท่านั้น ที่ไม่เห็นด้วย ซึ่งคงไม่ใช่เพราะทุกอย่างต้องมีความเป็นเอกภาพ เพราะปัญหาทุกวันนี้มองว่า ไม่มีความเป็นเอกภาพ หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่เห็นด้วยละมีเหตุผลมากกว่า ก็ทำต่อกันไม่ได้ขอให้ไปว่ากันในที่ประชุม ซึ่งตนจะไม่ตอบข้างนอกว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ การไปพูดคุยเป็นเรื่องของคณะทำงานเพื่อแสวงหาทางออกด้วยสันติวิธีที่ต้องไป หาวิธีทำกันเอง ไปหารือกัน กลับมาก็มาพูดคุยกัน สิ่งที่สำคัญต้องระมัดระวังไม่ให้ใครเข้ามาแทรกแซงเพราะเป็นปัญหาภายในประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือกลุ่มคนเสื้อเเดงชุมนุมขับไล่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญว่า เรื่องนี้ รัฐบาลและตำรวจมีความเป็นห่วง ตนก็ห่วงอยู่ในระดับ 3
หากมีคำสั่งใช้ทหารตนก็พร้อมจะดูแล หากไม่ใช้ทหารก็ดูอยู่ห่างๆ
ทั้งนี้ บ้านเมืองมีกฎหมาย มีประชาธิปไตย มีรัฐธรรมนูญ ตราบใดยังมีรัฐธรรมนูญและกฎหมายก็จะไม่มีใครทำอะไรได้ หากวันนี้ยังไม่โดนจับ วันหน้าก็ต้องโดนจับ และก็ต้องเป็นคดีความเหมือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี จะหนีกฎหมายคงไม่พ้น ดังนั้น ก็ต้องไปหาวิธีแก้ปัญหาอย่างไรต่อไป“ผมอยากขอร้อง บ้านเมืองตอนนี้กำลังเดินไปข้างหน้า ใครก็ตามที่จะทำอะไรก็แล้วแต่ ขอว่าอย่าไปทำอะไรที่ผิดกฎหมาย เพราะจะกลายเป็นแบบอย่างให้เด็กๆ ไม่เคารพกฎหมาย แล้วจะอยู่กันไม่ได้ ใครที่ขึ้นมาเป็นใหญ่ หากไม่มีกฎหมายก็ปกครองใครไม่ได้ ดังนั้น ต้องปกครองคนให้ได้ และต้องทำตนเป็นตัวอย่างที่ดี แก้ปัญหาให้ถูกช่องทาง อย่านำทหารออกไปวุ่นวายในขณะนี้ เพราะไม่ใช่เรื่อง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว.